เม่นแคระ

ประวัติของเม่นแคระ หรือชื่อจริงๆเรียกว่า เฮดจ์ฮอก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาเหนือ และ ตะวันออก พวกมันถูกนำมาเลี้ยงเป็น สัตว์เลี้ยง ครั้งแรกในยุโรปในศตวรรษที่ 18 และ ได้รับ ความนิยม เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เม่นแคระเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักดูแลง่าย พวกมันมีขนาดกะทัดรัด และ มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 5-7 ปี

การเลี้ยงเม่นแคระ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างดูแลง่าย แต่ก็มีบางสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจ เลี้ยง สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือขนาดกรง เม่นแคระต้องการกรงที่กว้างอย่างน้อย 24 นิ้วยาว 18 นิ้วและสูง 12 นิ้ว กรงควรมีของเล่นและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น บ้าน ล้อวิ่ง และของเล่นให้เคี้ยว

เม่นแคระ เป็นสัตว์ที่กินแมลงเป็นหลัก อาหารเม่นแคระ ที่ดีควรประกอบด้วย อาหาร คุณภาพสูง แมลง เช่น จิ้งหรีด ตั๊กแตน และจิ้งโกร่ง และ ผักสด เช่น แครอท แตงกวา และ ผักโขม เม่นแคระควรได้รับน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอ

เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างสะอาด พวกมันไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยนัก แต่ควรแปรงฟันสัปดาห์ละครั้งเพื่อขจัดเศษอาหาร และ เศษขนออกจากฟัน

สุขภาพของเม่นแคระ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างแข็งแรง แต่ก็มีบางปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และ ปัญหาเกี่ยวกับฟัน ของเม่นควรได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำโดย สัตวแพทย์

พฤติกรรมของเม่นแคระ นั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขี้อาย แต่พวกมันก็สามารถเข้ากับผู้คนได้หากได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสม เม่น เป็นสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืน ซึ่งหมายความว่าพวกมันจะตื่นตัวในเวลากลางคืน และ นอนหลับในเวลากลางวัน เม่นแคระเป็น สัตว์ ที่ค่อนข้างขี้เล่นและชอบปีนป่าย

ก่อนตัดสินใจเลี้ยงเม่นแคระ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียของสัตว์เลี้ยงชนิดนี้ ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียของเม่นแคระบางส่วน:

ข้อดี

• เม่นแคระเป็นสัตว์ที่น่ารักดูแลง่าย
• เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างสะอาด
• เม่นแคระมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 5-7 ปี

ข้อเสีย

• เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืน ซึ่งหมายความว่าพวกมันจะตื่นตัวในเวลากลางคืน และ นอนหลับในเวลากลางวัน
• เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขี้อาย ซึ่งหมายความว่าอาจใช้เวลาสักระยะกว่าพวกมันจะคุ้นเคยกับผู้คน
• เม่นแคระมีหนามแหลม ซึ่งอาจทำให้เจ็บได้หากถูกแทง

หากคุณกำลังพิจารณา เลี้ยงเม่น สิ่งสำคัญคือต้องทำการคิดอย่างละเอียด และ ตัดสินใจว่าสัตว์เลี้ยง ชนิดนี้เหมาะกับคุณหรือไม่

ติดตามบทความเพิ่มเติมที่ :: petsclub.info